อาการดังกล่าวส่วนใหญ่ร้อยละ 90 เกิดจากสายชาร์จที่ต่อกับโทรศั
ถึงตรงนี้ลูกค้าจะมีคำถามว่
หากมีปัญหาการใช้งานหรือสงสั
คุณภาพงาน
- ความละเอียดชัดเจนของ Code สีสูง ลูกค้าสามารถกำหนดรหัสสีที่ต้องการในการผสมสีได้ เหมาะสำหรับลูกค้าที่ให้ความสะคัญต่อความชัดเจนของสี
- ราคาขึ้นอยู่กับจำนวนสินค้าที่ต้องการให้ลงสี
- มีความคงทนของสีสูง ไม่สามารถลบได้
เหมาะสำหรับ Eloop Power Bank รุ่น: ทุกรุ่น
ภาพข้างล่างนี้คือตัวอย่างงาน Pad Press (สกรีน) ของแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ที่ทางเราจัดทำให้แก่ลูกค้า
]]>คุณภาพงาน
- ความละเอียดชัดเจนของ Code สีสูง ลูกค้าสามารถกำหนดรหัสสีที่ต้องการในการผสมสีได้ เหมาะสำหรับลูกค้าที่ให้ความสะคัญต่อความชัดเจนของสี
- ราคาขึ้นอยู่กับจำนวนสี และจำนวนจุดที่ต้องการ
- หลังจากที่สกรีนสีแล้ว ความคงทนจะไม่ทนเท่ากับวิธีลงสีแบบวิธีอื่นๆ สีสามารถหลุดได้ในการขีดแรงๆ
เหมาะสำหรับ Eloop Power Bank รุ่น: ทุกรุ่น
ภาพข้างล่างนี้คือตัวอย่างงาน Silk Screen (สกรีน) ของแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ที่ทางเราจัดทำให้แก่ลูกค้า
]]>
คุณภาพงาน
- ความละเอียดตํ่า เนื่องจากเป็นการพ่นสีทำให้สีกลมกลืนไปกับสีของ background
- ไม่มีขั้นตํ่า หรือจำกัดสีที่พ่น (ยกเว้นสีขาว) จะ 4 สี หรือ 1 สีก็ราคาเดียวกัน
- หลังจากที่พ่นสี รายละเอียดที่ลงไม่สามารถลบได้ ภาพจะอยู่ติดถาวร
- ไม่จำกัดขนาดของรูปต่อการพ่นสี 1 ครั้ง สามารถพ่นสีให้เต็มเนื้อที่ได้ จะเล็กหรือใหญ่ก็ราคาเดียวกัน
เหมาะสำหรับ Eloop Power Bank รุ่น: ทุกรุ่น
ภาพข้างล่างนี้คือตัวอย่างงาน Digital Printing ของแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ที่ทางเราจัดทำให้แก่ลูกค้า
]]>คุณภาพงาน
- คมชัด มีความละเอียดสูง เหมาะสำหรับงานที่ต้องการเน้น detail ในจุดเล็กจุดน้อย
- สีของเลเซอร์เป็นสีขาวเท่านั้น
- หลังจากที่ยิงเลเซอร์ รายละเอียดที่ลงไม่สามารถลบได้ ภาพจะอยู่ติดถาวร
- จำกัดขนาดของรูปต่อการยิง 1 ครั้ง
เหมาะสำหรับ Eloop Power Bank รุ่น: E11, E14, E17, E18
ภาพข้างล่างนี้คือตัวอย่างงานยิงเลเซอร์ลงบนพื้นของแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ที่ทางเราจัดทำให้แก่ลูกค้า
]]>การเลือกรุ่นของแบตเตอรีสำรอง (Power Bank) นั้นขึ้นอยู่ต่อจำนวนครั้ง ในการชาร์ตอุปกรณ์ที่คุณมี (โทรศัพท์มือถือ / iPad / iPod / PSP / Tablet ต่างๆ) หลายๆ คนก็เลยไม่เข้าใจว่าทำไม Power Bank ถึงใช้ได้น้อยกว่าที่คิด เช่น ใช้ Power Bank ความจุ 6200 mAh กับ iPhone 5 สามารถชาร์จได้ 2 รอบ ทั้งที่ความจุน่าจะใช้ได้ถึง 4 รอบ เป็นเพราะค่า Loss ที่เกิดขึ้น Power Bank ทุกรุ่นจะมีค่า Loss (ค่าพลังงานที่หาย) อยู่ที่ 30% ซึ่งเสียไประหว่างการแปลงพลังงานของ input และ output ซึ่งเป็นเรื่องปกติของ Power Bank ทุกยี่ห้อ เราต้องหักค่า Loss 30% แล้วหารด้วยความจุของ Power Bank ที่เราต้องการใช้ แล้วเราก็จะได้จำนวนครั้งของการชาร์จ อีกทั้งในเวลาที่เราชาร์จไฟเราอาจจะใช้โทรศัพท์ไปด้วย หรือต่อให้ไม่ได้ใช้แต่ Application (e.g. Facebook, Game, Line etc.) นั้นยังคงเปิดรับส่งข้อมูลอยู่ตลอดเวลา ทำให้มีการใช้พลังงานไปด้วยพร้อมกันกับการชาร์จ รอบต่อครั้งในการชาร์จจึงลดลง
ต้องอย่าลืมว่ายิ่ง Power Bank มีความจุมากเท่าไหร่ น้ำหนัก และความใหญ่ก็ยิ่งมากขึ้น ทีนี้เราต้องถามตัวเราเองว่า ภายในหนึ่งวันเราต้องการชาร์จโทรศัพท์กี่ครั้ง เพื่อที่จะได้เลือก Power Bank ที่สมเหตุสมผลสำหรับตัวเราเอง เช่น เรามี iPhone 5 และต้องการ Power Bank ที่มีความจุในการชาร์ตที่ 2-3 รอบ ต่อวัน Power Bank ที่เหมาะสมสำหรับเราก็จะเป็น Power Bank ที่มีความจุที่มากกว่า 8000 mAh ขึ้นไป
ตัวอย่างการคำนวณความจุของ Power Bank ที่มีต่ออุปกรณ์ของคุณอุปกรณ์ และ Power Bank ที่ต้องการใช้ร่วม:แบตเตอรี่ iPhone 5 อยู่ที่ 1440 mAhเราต้องการซื้อ Power Bank ที่มีความจุอยู่ที่ 10000 mAh
สูตรการคำนวน: (10000 * 0.7) / 1440 = 4.8 รอบสรุป: Power Bank รุ่น 10000 mAh สามารถชาร์ต iPhone 5 จนเต็ม 100% ได้ 4.8 รอบ (หรือ 4 ครั้งกับอีก 80%) แต่อย่าลืมว่าในเวลาที่เราชาร์จนั้นเราอาจจะใช้โทรศัพท์ไปด้วย หรือมี Application ที่ต้องใช้พลังงานอยู่ตลอดเวลาทั้งๆ ที่เราไม่ได้ใช้ ซึ่งหมายความว่าอาจจะชาร์จได้ไม่ถึง 4.8 รอบจากที่คำนวน
]]>ชนิดของแบตเตอรีที่ใช้ใน Power Bank มีด้วยกันหลักๆ 2 แบบ ระหว่าง Lithium Polymer กับ Lithium Ion และมือถือปกติและสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ใช้แบตเตอรี่อยู่ 2 ประเภทหลักๆคือ Lithium Ion และ Lithium Polymer ซึ่ง ทั้ง 2 อย่างจะให้ผลที่แตกต่างกันค่อนข้างชัดเจนทีเดียว
Lithium Ionเป็นแบตที่ถูกพัฒนาขึ้นในปี 1912 แต่ไม่ถูกใช้อย่างแพร่หลายนัก จนกระทั่ง Sony เลือกใช้แบตชนิดนี้ในปี 1991 แบตเตอรี่ประเภท Lithium Ion มีความหนาแน่นของพลังงานสูง และที่สำคัญราคาถูกกว่า Lithium Polymer ในการใช้ครั้งแรกไม่ต้องชาร์จก่อน และการปลดปล่อยพลังงานต่ำมาก อย่างไรก็ตาม Lithium Ion จะมีการเสื่อมสภาพตามวัยแม้ไม่ได้ถูกใช้ก็ตาม
Lithium Polymerย้อนกลับไปเมื่อปี 1970 ตอนนั้น Lithium Polymer ได้ถูกพัฒนาขึ้น การออกแบบครั้งแรกได้รวม อิเล็กโทรไลท์-โพลิเมอร์ ในรูปแบบ แข็ง และ แห้ง คล้ายกับฟิล์มพลาสติก ทำให้ผลออกมาคือ รูปร่างจะคล้ายๆกับ บัตรเครดิต (มีลักษณะบาง) ในขณะที่ยังคงมีความสามารถในการคงอายุการใช้งานที่ดี นอกจากนี้ แบตเตอรรี่ประเภทนี้ ยังมีความเบา และถูกปรับปรุงให้มีความปลอดภัยสูงยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม แบตประเภทนี้มีราคาที่สูงกว่า Lithium Ion และมีความหนาแน่นของแบตเตอรี่น้อยกว่า Lithium Ion
]]>